ตอบสนองความต้องการของโครงการจัดหาน้ำเพื่อการชลประทานขนาดใหญ่

เนื่องจากต้นทุนพลังงานและปัญหาการขาดแคลนอาหารทั่วโลกยังคงเพิ่มสูงขึ้น สมาคมน้ำจึงให้ความสำคัญกับโครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านชลประทานที่สามารถส่งน้ำเพื่อการชลประทานได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า โดยโครงการจัดหาน้ำเพื่อการชลประทานสามารถแบ่งออกเป็น 3 ด้านหลัก ๆ ดังนี้:

1. การจัดการสถานีสูบน้ำและแหล่งน้ำ
2. เครือข่ายจ่ายน้ำ
3. หัวจ่ายน้ำดับเพลิง [หรือที่เรียกว่าระบบบริหารจัดการจุดจ่ายน้ำ (OMS)]

1. การจัดการสถานีสูบน้ำและแหล่งน้ำ

รวมถึงแหล่งน้ำและสถานีสูบน้ำ เพื่อให้การส่งจ่ายน้ำมีประสิทธิภาพ สถานีสูบน้ำเป็นทรัพย์สินที่มีความซับซ้อนและมีราคาสูง ซึ่งควรได้รับการออกแบบและก่อสร้างอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงแหล่งน้ำที่มีอยู่ ลักษณะภูมิประเทศ และสภาพการใช้งาน เช่น อัตราการไหลที่คาดการณ์ไว้ ความดัน และคุณภาพน้ำ ความท้าทายเพิ่มเติมที่ผู้ออกแบบต้องพิจารณา ได้แก่ การรับมือกับความต้องการการไหลที่เปลี่ยนแปลง ภูมิประเทศที่ไม่ปกติ ความขัดข้องของระบบ และไฟฟ้าขัดข้อง รวมถึงแรงดันกระแทกและแรงดันน้ำกระชากที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ ยังต้องคำนึงถึงการประหยัดพลังงานและประสิทธิภาพของระบบที่เหมาะสม สถานีสูบน้ำและระบบจ่ายน้ำควรมีความสามารถดังนี้:

• ปกป้องปั๊มน้ำจากแรงดันกระแทก ไฟฟ้าขัดข้อง และความผิดปกติใด ๆ ของระบบ
• การจัดการการเปลี่ยนแปลงในการบริโภคและแรงดันใช้งาน
• ประหยัดพลังงานและเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI)
• เพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของระบบ
• ลดความต้องการในการบำรุงรักษาให้น้อยที่สุด
• เพิ่มอายุการใช้งานของระบบให้สูงสุด
• รับมือกับภูมิประเทศที่ท้าทาย

2. เครือข่ายจ่ายน้ำ

ควบคุมอากาศ

การควบคุมอากาศในเครือข่ายน้ำที่ไม่ดีอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อประสิทธิภาพการทำงาน การมีอากาศในปริมาณที่ไม่สามารถควบคุมได้ในระบบน้ำจะทำให้ขั้นตอนการเติมและระบายน้ำไม่มีประสิทธิภาพ ลดอัตราการไหล และเพิ่มต้นทุนพลังงานในการสูบน้ำ นอกจากนี้ยังรบกวนการทำงานของส่วนประกอบบางอย่างของระบบ เช่น วาล์วควบคุม มิเตอร์น้ำ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม อากาศมีความจำเป็นในการจัดการกับสภาวะสุญญากาศและแรงดันกระแทก ดังนั้น ระบบควบคุมอากาศที่มีประสิทธิภาพควรสามารถนำอากาศเข้าสู่ระบบน้ำได้ บางครั้งต้องมีอัตราการไหลสูงและภายในระยะเวลาอันสั้น

การควบคุมอากาศที่เหมาะสมในเครือข่ายชลประทานช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุด การควบคุมอากาศในระบบน้ำมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเพิ่มประสิทธิภาพในระหว่างการเติม การระบายน้ำ และการทำงานภายใต้แรงดัน รวมถึงการปกป้องระบบจากสภาวะสุญญากาศและแรงดันกระแทก

แรงดันกระแทก

ปรากฏการณ์แรงดันกระแทกเกิดจากการเปลี่ยนแปลงความเร็วของการไหลอย่างกะทันหัน อันเป็นผลมาจากการเริ่มเดินเครื่อง การหยุดเดินเครื่อง หรือไฟฟ้าดับที่สถานีสูบน้ำ หรือการปิดวาล์วขนาดใหญ่ ระบบการจัดการแรงดันที่มีประสิทธิภาพควรป้องกันและลดผลกระทบจากเหตุการณ์แรงดันกระแทกในเครือข่าย และปกป้องปั๊ม ท่อส่งน้ำ และส่วนประกอบสำคัญอื่น ๆ จากความเสียหาย การแตกระเบิด และความเสียหายร้ายแรง ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบที่รุนแรง เช่น ค่าใช้จ่ายทางการเงินจำนวนมาก หรือแม้กระทั่งการสูญเสียชีวิต

ระบบบริหารจัดการแรงดันอย่างมีประสิทธิภาพช่วยป้องกันและลดผลกระทบจากแรงดันกระแทก รวมถึงปกป้องปั๊ม ท่อส่งน้ำ และชิ้นส่วนสำคัญอื่น ๆ จากความเสียหาย การแตกร้าว และการชำรุด

ความต้องการที่เพิ่มขึ้นต่อเครือข่ายการส่งจ่ายน้ำ

เครือข่ายการจ่ายน้ำสมัยใหม่ควรได้รับการออกแบบเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัด รองรับการบำรุงรักษาที่ต่ำ และสามารถวัดปริมาณน้ำได้อย่างแม่นยำสูงเพื่อการคิดค่าบริการและการแบ่งสรรน้ำที่ถูกต้อง

เพื่อรองรับความต้องการเหล่านี้ วาล์วควบคุมที่ใช้ปรับแรงดันและการไหลสำหรับแต่ละโซนแรงดันในเครือข่ายจ่ายน้ำ จะช่วยให้สามารถปรับแต่งเครือข่ายได้อย่างเหมาะสม โดยคำนึงถึงภูมิประเทศ ระยะทางจากสถานีสูบน้ำ วิธีการชลประทาน และสถานการณ์ความต้องการที่แตกต่างกัน

ระบบบริหารจัดการน้ำที่ใช้เทคโนโลยี IoT และคลาวด์ รวมถึงมิเตอร์น้ำและวาล์วควบคุมแรงดัน & การไหลในแต่ละโซนแรงดันตลอดแนวเครือข่ายจ่ายน้ำ ควรสามารถเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายและตอบสนองต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้แบบเรียลไทม์

3. หัวดับเพลิง

หัวจ่ายน้ำขั้นสูงและอัจฉริยะ — หรือที่รู้จักกันในชื่อ ระบบบริหารจัดการจุดจ่ายน้ำ (OMS) — กำลังกลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในการมอบแรงดันและอัตราการไหลที่เหมาะสมให้กับเกษตรกรสำหรับพืชผลของพวกเขาตามตารางเวลาที่กำหนดไว้ล่วงหน้าในช่วงฤดูชลประทาน หัวจ่ายน้ำเหล่านี้สามารถควบคุมแรงดันน้ำ และในหลายกรณียังสามารถควบคุมอัตราการไหลได้อีกด้วย
นอกจากนี้ หัวจ่ายน้ำควรต้องการการบำรุงรักษาน้อยที่สุดและมีความแข็งแรงทนทานสูง เพื่อให้สามารถทนต่อสภาพแวดล้อมภายนอกได้ รวมถึงเหตุการณ์สภาพอากาศรุนแรง การป้องกันการก่อวินาศกรรม และการขาดแคลนไฟฟ้า

โซลูชันไฮดรานท์อัจฉริยะช่วยให้หน่วยงานด้านน้ำสามารถรับมือกับปัญหาการขาดแคลนน้ำ ต้นทุนพลังงาน และความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมและตอบสนองความต้องการของเกษตรกร

เมื่อเลือกหัวดับเพลิง ให้มองหาทางเลือกที่:

• ควบคุมแรงดันน้ำและการไหลโดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องใช้พลังงานจากภายนอก
• เพิ่มประสิทธิภาพและตรวจสอบการไหลของน้ำด้วยมิเตอร์วัดการไหลที่ชาญฉลาดและแม่นยำ
• รองรับการควบคุมระยะไกลและตัวเลือกการคิดค่าบริการ
• ทนทานต่อสภาพแวดล้อมกลางแจ้งที่สมบุกสมบัน สภาพอากาศสุดขั้ว และการขัดข้องของแหล่งจ่ายไฟ
• ให้การป้องกันการงัดแงะและการก่อกวน
  

แอปพลิเคชันบนคลาวด์ควรให้การมองเห็นระบบอย่างครบถ้วนและควบคุมระยะไกล เพื่อการดำเนินงาน การจัดการ และการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพในแต่ละวัน

มอบโซลูชันที่เหมาะสมที่สุดเพื่อตอบโจทย์ทุกความท้าทายด้านชลประทาน

ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์เฉพาะของเรา เครื่องมือออกแบบ ประสบการณ์ และศักยภาพ ทีมงานของ BERMAD ทำงานร่วมกับลูกค้าอย่างใกล้ชิดเพื่อคิดค้นโซลูชันที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงข้อกำหนดทั้งหมด เช่น สภาพแวดล้อม ภูมิประเทศ คุณภาพน้ำ พลังงาน ความดัน ตลอดจนงบประมาณ กฎระเบียบท้องถิ่น และความต้องการของลูกค้า เพื่อมอบโซลูชันที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

BERMAD ตอบโจทย์ความต้องการสำหรับระบบส่งจ่ายน้ำที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ โดยเน้นที่ระบบจ่ายน้ำ สายส่ง และจุดส่งน้ำ ปรึกษาเกี่ยวกับโซลูชันขั้นสูงของเราสำหรับโครงการจัดหาน้ำเพื่อการชลประทานทั่วโลก