การใช้วาล์วลดแรงดัน (PRV) เพื่อแก้ไขปัญหาการควบคุมแรงดันในอาคารสูง

ในยุคปัจจุบันที่มีการขยายตัวของเมืองทั่วโลก อาคารสูง เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของคนจำนวนมากได้อย่างสะดวกสบาย พร้อมทั้งช่วยประหยัดพื้นที่อสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณค่า อย่างไรก็ตาม อาคารสูงยังคงมีความท้าทายในการออกแบบระบบจ่ายน้ำ

แรงดันน้ำที่เหมาะสมสำหรับอาคารที่พักอาศัยหรืออาคารพาณิชย์ขนาดเล็กคือ 2-5 บาร์ หากแรงดันน้ำต่ำกว่า 2 บาร์ จะมีแรงดันไม่เพียงพอสำหรับการอาบน้ำ และหากเกิน 5 บาร์ อาจทำให้น้ำสูญเปล่า อย่างไรก็ตาม มีความท้าทายเนื่องจากท่อประปาหลักของเทศบาลมักจ่ายแรงดันน้ำที่ระดับพื้นดินประมาณ 3-4 บาร์ แรงดันน้ำจะลดลงเมื่อจ่ายน้ำขึ้นไปยังชั้นสูงของอาคาร ซึ่งหมายความว่าแรงดันน้ำจากเมืองมักจะเพียงพอสำหรับอาคารสูงได้ประมาณแปดชั้นเท่านั้น ด้วยเหตุนี้จึงต้องมีการปรับแต่งระบบประปาในอาคารสูงเพื่อให้มั่นใจว่าแรงดันน้ำเหมาะสมในทุกระดับ

มีวิธีมาตรฐานหลายวิธีในการแก้ไขปัญหานี้ วิธีหนึ่งคือการใช้ปั๊มเพิ่มแรงดันเพื่อส่งน้ำที่มีแรงดันเพียงพอไปยังชั้นบน อีกทางเลือกหนึ่งซึ่งมีการใช้งานมานานกว่าศตวรรษและยังคงได้รับความนิยมในปัจจุบัน คือการสูบน้ำขึ้นไปเก็บไว้ในถังเก็บน้ำบนดาดฟ้า จากนั้นน้ำจะไหลลงมาตามแรงโน้มถ่วงไปยังชั้นที่สูงเกินกว่าที่แรงดันน้ำประปาจะให้บริการได้อย่างเพียงพอ

อย่างไรก็ตาม ชั้นที่ได้รับบริการด้วยรูปแบบการจ่ายน้ำจากบนลงล่างนี้จะประสบปัญหาตรงกันข้ามที่ชั้นล่าง เนื่องจากแรงดันน้ำจะเพิ่มขึ้นในแต่ละชั้นที่ต่ำลง ด้วยเหตุนี้ เมื่อแรงดันน้ำที่ชั้นบนของอาคารสูงที่มีถังเก็บน้ำบนหลังคาอยู่ในระดับที่เพียงพอ มักจะเกิดแรงดันน้ำที่สูงเกินไปที่ชั้นล่าง ทางแก้ไขคือการติดตั้ง วาล์วลดแรงดัน (PRVs) เพื่อปรับแรงดันน้ำที่สูงเกินไปในบริเวณนี้ให้กลับมาอยู่ในมาตรฐานที่ยอมรับได้

การติดตั้งแบบสองทางแยกที่มีระบบลดแรงดันแบบ BC-72S-B2H-P พร้อมระบบสำรอง การบายพาสสำหรับการไหลนอกช่วงพีค และอุปกรณ์ระบายแรงดันในตัว ช่วยให้สามารถจ่ายน้ำที่มีแรงดันตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ด้วยความปลอดภัยสูงสุดและการออกแบบที่กะทัดรัด

วิธีการติดตั้งวาล์วลดแรงดัน (PRV) ในอาคารสูง

ตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดในการติดตั้งวาล์วลดแรงดัน (PRV) ในระบบจ่ายน้ำอาคารที่มีถังเก็บน้ำบนดาดฟ้าขึ้นอยู่กับการออกแบบระบบ หนึ่งในแนวทางแก้ไขคือการติดตั้ง PRV แยกในแต่ละชั้นที่ต้องการลดแรงดันน้ำ โดยสามารถปรับตั้งค่าแต่ละ PRV ให้เหมาะสมกับแรงดันที่ต้องการในแต่ละชั้นได้ อย่างไรก็ตาม วิธีนี้จะเพิ่มทั้งต้นทุนเริ่มต้นของโครงการและความต้องการในการบำรุงรักษาระบบ

อีกทางเลือกหนึ่ง อาคารสามารถแบ่งออกเป็นโซน โดยแต่ละโซนมีได้สูงสุด 10 ชั้น และติดตั้งวาล์วลดแรงดัน (PRV) สำหรับแต่ละโซน ในกรณีนี้ PRV จะถูกติดตั้งที่ชั้นล่างของโซนและปรับตั้งให้เหมาะสมกับช่วงแรงดันสูง แรงดันน้ำภายในแต่ละโซนจะลดลงตามลำดับเมื่อไหลขึ้นแต่ละชั้น ดังนั้นต้องระมัดระวังในการปรับตั้งวาล์วเพื่อให้สามารถจ่ายแรงดันน้ำที่เพียงพอ (ระหว่าง 2.5 ถึง 5 บาร์) ให้กับทุกชั้นในโซน

วาล์วสามารถติดตั้งแบบต่อเนื่องกัน (ตัวหนึ่งอยู่ก่อนอีกตัวบนท่อหลักเดียวกัน) หรือแยกออกไปยังท่อรองได้ เราไม่แนะนำให้ติดตั้งวาล์วแบบต่อเนื่องกัน เพราะหากวาล์วเกิดขัดข้อง จะต้องปิดน้ำทั้งอาคาร (หรือพื้นที่ขนาดใหญ่) เพื่อซ่อมบำรุง

ปัญหาอีกประการหนึ่งของการติดตั้งแบบอนุกรมคือระดับที่ต่ำกว่าของแต่ละโซนมักจะมีแรงดันน้ำไม่คงที่ ด้วยเหตุนี้ หากหลีกเลี่ยงการติดตั้งแบบอนุกรมไม่ได้ เราขอแนะนำให้ใช้ วาล์วควบคุมแรงดัน BERMAD 720PD ซึ่งเป็นวาล์วแบบสัดส่วนที่ตอบสนองได้รวดเร็วกว่าวาล์วลดแรงดันแบบไพล็อต วาล์วนี้จะควบคุมแรงดันโดยอัตโนมัติเมื่อจำเป็น และจะปิดอยู่เมื่อไม่มีความต้องการใช้งานในระบบ

ในระบบลดแรงดันแบบขนานที่แต่ละโซนมีวาล์วสำรอง จะสามารถสลับการทำงานระหว่างวาล์วลดแรงดันได้โดยอัตโนมัติอย่างง่ายดาย เพื่อหลีกเลี่ยงการหยุดทำงานของระบบ

วิธีปรับเทียบ PRV เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดโพรงอากาศและเสียงรบกวน

เมื่อแรงดันถูกลดจากสูงลงต่ำ พลังงานจะถูกเปลี่ยนเป็นความร้อนและเสียงรบกวน โดยส่วนใหญ่ของเสียงเหล่านี้เกิดจากปรากฏการณ์ที่เรียกว่าคาวิเทชัน ซึ่งฟองอากาศจะก่อตัวและยุบตัวในห้องวาล์ว บางครั้งอาจทำให้ตัวเรือนวาล์วเกิดความเสียหายทางกายภาพได้

เพื่อหลีกเลี่ยงเสียงรบกวนและการเกิดโพรงอากาศ รวมถึงยืดอายุการใช้งานของตัวควบคุมแรงดันน้ำ ควรรักษาสัดส่วนที่เหมาะสมระหว่างแรงดันน้ำที่ทางเข้าวาล์ว (P1) กับแรงดันที่ทางออกของวาล์ว (P2) โดยการรักษาสัดส่วน P1:P2 ไม่เกิน 2.5 จะช่วยป้องกันไม่ให้ระบบเข้าสู่ช่วงการเกิดโพรงอากาศ

การลดแรงดันสูงลงเป็นแรงดันต่ำโดยใช้การลดสองขั้นในวาล์วลดแรงดัน BC-720-PD-P และ BC-720-P ซึ่งทั้งสองตัวมีวาล์วระบายแรงดันฉุกเฉิน (อยู่ตรงกลาง) และวาล์วระบายแรงดันแบบมุม BC-73Q-P รองรับ

คุณกำลังออกแบบระบบจ่ายน้ำสำหรับอาคารสูงอยู่หรือไม่?

วิศวกรของ BERMAD พร้อมให้ความช่วยเหลือในทุกความต้องการด้านการออกแบบระบบน้ำของคุณ หากต้องการติดต่อกับพวกเขา ติดต่อผู้แทน BERMAD ในภูมิภาคของคุณ