วาล์วนิรภัยน้ำสำหรับอาคารสูง

 ระบบประปาในอาคารสูง รวมถึงวาล์วควบคุม จำเป็นต้องทำงานได้อย่างราบรื่นและต้องการการบำรุงรักษาน้อยที่สุดเป็นเวลาหลายปี ดังนั้น การเลือกแบบวาล์วควบคุมที่เหมาะสมที่สุดและการผนวกวาล์วนิรภัยเข้าไปในแต่ละระบบตั้งแต่ขั้นตอนการวางแผนแรกเริ่มจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้มั่นใจว่าสอดคล้องกับข้อกำหนดดังกล่าว
วาล์วนิรภัยในระบบลดแรงดัน:

วาล์วลดแรงดัน (PRVs) ควรติดตั้งในทุกจุดที่ต้องลดแรงดันน้ำสูงให้เหมาะสมกับการเชื่อมต่อในเครือข่ายผู้ใช้งานและเป็นไปตามรหัสแรงดันในพื้นที่ โดยบ่อยครั้ง วาล์วลดแรงดันเหล่านี้ต้องทำงานในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง ส่งผลให้เกิดการสึกหรอมากเกินไปและนำไปสู่การทำงานที่ผิดปกติในที่สุด

ตามที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ การเลือกโมเดลที่เหมาะสมจะช่วยให้สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องและเชื่อถือได้เป็นเวลาหลายปี อย่างไรก็ตาม แม้ว่าวาล์วควบคุมที่มีคุณภาพดีที่สุดก็อาจเกิดความล้มเหลวได้ในบางครั้ง ความล้มเหลวดังกล่าวจะทำให้แรงดันสูงเข้าสู่เครือข่ายผู้ใช้งาน ส่งผลให้ท่อของระบบประปา รวมถึงอุปกรณ์และอุปกรณ์เสริมต่างๆ เช่น ถังพักน้ำชักโครก ก๊อกน้ำ และก็อกผสม เสี่ยงต่อความเสียหายอย่างรุนแรง

ขอแนะนำเป็นอย่างยิ่งให้ติดตั้งวาล์วความปลอดภัยเพื่อให้ระบบทำงานได้อย่างถูกต้อง แม้ในกรณีที่วาล์วลดแรงดันเกิดความขัดข้อง วาล์วความปลอดภัยสามารถติดตั้งได้ทั้งขาเข้าหรือขาออกของวาล์วลดแรงดัน และจะเปิดเต็มที่ในตำแหน่งสแตนด์บายขณะตรวจวัดแรงดันขาออกของระบบ วาล์วความปลอดภัยควรตั้งค่าให้เริ่มทำงานและเข้าควบคุมทันทีเมื่อแรงดันขาออกสูงกว่าค่าตั้งต้นเดิม 1.0 บาร์

เพื่อให้แน่ใจว่าวาล์วนิรภัยทำงานได้อย่างถูกต้องหลังจากเปิดค้างไว้นาน ควรติดตั้งวาล์วสองห้องซึ่งมีแรงปิดที่แข็งแรง เมื่อวาล์วนิรภัยทำงาน จะส่งสัญญาณเตือนไปยังระบบบริหารจัดการอาคาร หรือกลไกแจ้งเตือนอื่น ๆ ที่เชื่อมต่ออยู่ ผ่านเซนเซอร์ตำแหน่งวาล์วโดยเฉพาะ

ชุดวาล์ว: BERMAD รุ่น 72S – ประกอบด้วยวาล์วลดแรงดัน BERMAD รุ่น 720 และวาล์วนิรภัย BERMAD รุ่น 720-X

ติดตั้งวาล์วเดี่ยวในแนวเดียวกับ PRV: BERMAD รุ่น 720-X

ระบบลดแรงดันพร้อมวาล์วนิรภัย – “ระบบวอทช์ด็อก”

วาล์วนิรภัยในระบบเติมน้ำถังเก็บ:

วาล์วเติมถังเก็บน้ำมักติดตั้งบนท่อเติม โดยมีหน้าที่ปล่อยให้น้ำไหลเข้าสู่ถังเก็บน้ำตามความจำเป็น และปิดเพื่อป้องกันน้ำล้นเมื่อถังเก็บน้ำเต็ม

แนวทางปฏิบัติที่พบมากสำหรับการใช้งานนี้ คือการติดตั้งวาล์วไฮดรอลิกที่ทำงานด้วยลูกลอยไฮโดรเมคานิกหรือโซลินอยด์ไฟฟ้า พร้อมอุปกรณ์เสริมสำหรับตรวจวัดระดับ (สวิตช์ลูกลอย, เซ็นเซอร์อัลตราโซนิก ฯลฯ)

ความล้มเหลวใด ๆ ที่ทำให้วาล์วไม่สามารถปิดได้ อาจนำไปสู่การล้นของน้ำซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบไฟฟ้าและทรัพย์สินอื่น ๆ รวมถึงเป็นอันตรายต่อชีวิตมนุษย์ วิธีป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าวคือการติดตั้งวาล์วนิรภัยในระบบ โดยวาล์วนิรภัยนี้เป็นวาล์วที่ปกติเปิดอยู่และติดตั้งอยู่ในแนวเดียวกับวาล์วเติมหลัก กลไกการสั่งงานของวาล์วนิรภัยจะถูกปรับเทียบให้ปิดวาล์วหลักเมื่อระดับน้ำในถังเก็บสูงเกินระดับสูงสุดที่กำหนดไว้

แนะนำว่า หากวาล์วเติมหลักถูกควบคุมด้วยลูกลอยไฮโดรเมคานิก วาล์วนิรภัยควรใช้ระบบไฟฟ้าในการควบคุม และในทางกลับกัน เพื่อให้มั่นใจว่าวาล์วนิรภัยจะทำงานได้อย่างถูกต้องหลังจากเปิดค้างไว้นาน ควรติดตั้งวาล์วสองห้องซึ่งมีแรงปิดที่แข็งแรง เมื่อวาล์วนิรภัยถูกกระตุ้น จะมีการแจ้งเตือนไปยังระบบบริหารจัดการอาคาร หรือกลไกแจ้งเตือนอื่น ๆ ที่เชื่อมต่ออยู่ ผ่านเซนเซอร์ตำแหน่งวาล์วเฉพาะ

วาล์วนิรภัยควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า: BERMAD รุ่น 750-65

วาล์วควบคุมระดับน้ำแบบไฮโดรเมคานิกพร้อมลูกลอยแนวตั้งสองระดับ BERMAD รุ่น 750-66

ระบบควบคุมระดับน้ำในถังเก็บน้ำพร้อมวาล์วความปลอดภัย